เปิดค่าใช้จ่าย ทีมที่จะซื้อนักเตะฟรีเอเยนต์ว่าไม่เสียเงินจริงหรือเปล่า ?
เปิดค่าใช้จ่าย ทีมที่จะซื้อนักเตะฟรีเอเยนต์ว่าไม่เสียเงินจริงหรือเปล่า ? ในตลาดซื้อขายตัวนักเตะในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา มีนักเตะซุปเปอร์สตาร์ที่ย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัว มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฮาเมส โรดริเกซ , หลุยส์ ซัวเรส และ อาร์ตูโร วิดัล วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้ถึงการเซ็นสัญญานักเตะฟรีเอเยนต์ว่าไม่เสียเงินจริงหรือไม่ สโมสรต่อที่จะเซ็นสัญญาคว้าตัวพวกเขาไปต้องจ่ายเงินค่าอะไรบ้าง ไปดูกันได้เลย
ค่าเอเยนต์
เงินก้อนแรกที่สโมสรจะต้องจ่ายในการเซ็นสัญญานักเตะที่ไร้สังกัดคือ การจ่ายเงินค่าเอเยนต์ หรือนายหน้าที่ทำหน้าที่หาสโมสรใหม่ให้กับนักเตะ ซึ่งปัจจุบันพวกเขาเหล่านี้กลายเป็นส่วนสำคัญในโลกของฟุตบอลไปแล้ว
เนื่องจากนักเตะที่เหลือสัญญากับทีมเดิมไม่ถึง 6 เดือน จะสามารถย้ายทีมแบบไร้ค่าตัวตามกฎบอสแมนได้ แต่อย่างไรก็ตาม นักเตะคนนั้นจะไม่สามารถไปพูดคุยกับสโมสรอื่นได้โดยตรงเพราะยังคงต้องทำตามข้อกำหนดในสัญญา ทำให้หน้าที่เหล่านั้นตกเป็นของเอเยนต์ที่จะกำหนดอนาคตของนักเตะว่าจะสามารถหาทีมให้พวกเขาได้หรือไม่
โดยในปี 2019 ได้มีการเปิดเผยข้อมูลจาก FIFA ว่าเหล่าเอเยนต์ได้เงินกินเปล่าจากการย้ายทีมของนักฟุตบอลทั่วโลก สูงถึง 2 หมื่นล้านบาท เลยทีเดียว ทาง FIFA จึงต้องเข้ามาบังคับใหม่ในปี 2020 ว่าไม่อนุญาตให้เอเยนต์ได้ส่วนแบ่งเกิน 10 เปอร์เซ็นต์
สรุปง่าย ๆ คือ ค่าเอเยนต์เปรียบเหมือนการจ่ายเงินเพื่อเปิดทางของทีมฟุตบอล เพื่อจะได้เข้าไปเจรจาเซ็นสัญญากับนักเตะไร้สังกัด เนื่องจากไม่เสียเงินเท่ากับการย้ายทีมแบบปกติ เงินส่วนนี้จึงเป็นค่าใช้จ่ายที่สโมสรพร้อมจะเสียให้กับเอเยนต์ เพื่อเป็นการการันตีว่าพวกเขาจะได้นักเตะตามต้องการ
การจ่ายโบนัสเพื่อดึงดูดนักเตะ
เงินส่วนนี้คือการเพิ่มโบนัสลงไปในสัญญาให้กับนักเตะฟรีเอเยนต์ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นส่วนสำคัญที่หลายสโมสรเลือกที่จะใช้ เพื่อเป็นสิ่งดึงดูกนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์ ให้เลือกมาอยู่กับทีมของตัวเอง เนื่องจากเงินส่วนนี้จะไม่ต้องเสียค่าตัวเหมือนการย้ายทีมแบบปกติ หลายสโมสรจึงใส่เงินโบนัสลงไปในสัญญาแทน
เราจะยกกรณีของ การเซ็นสัญญา ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2016-2017 หลังที่กองหน้าเทพเจ้าหมดสัญญากับทีมปารีส แซงต์-แชร์กแมง เพื่อคว้าตัวกองหน้าตัวเก่งรายชื่อ ปีศาจแดง ยอมจ่ายค่าเหนื่อยให้กับ อิบราฮิโมวิช เป็นมูลค่า 19 ล้านปอนด์ต่อ 1 ปี ทำให้ในตอนนั้น ซลาตัน กลายเป็นผู้นักเตะที่ค่าเหนื่อยสูงที่สุดในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
จึงไม่แปลกที่ค่าตอบแทนสูงขนาดนี้ จะสามารถมัดใจ อิบราฮิโมวิช ได้อย่างไม่ยากเย็น และทีมปีศาจแดงยังใส่โบนัสเสริมเข้าไปอีก คือ โบนัสการทำประตู ทำให้ซลาตัน ได้เงินกินเปล่าไป ราว ๆ 115 ล้านบาท รวมไปถึงการใส่โบนัสหากสโมสรผ่านเข้าไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2017-2018 ได้สำเร็จและคว้าแชมป์ได้ กองหน้าชาวสวีดิชมีโอกาสได้เงินสูงถึง 5.25 ล้านปอนด์ แต่น่าเสียดายที่ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายไป จึงไม่ต้องเสียเงินโบนัสข้อนี้ไป
สรุปคือการใส่โบนัสในสัญญาเพื่อคว้าตัวนักเตะฟรีเอเยนต์ คือการลงทุนเพื่ออนาคตของสโมสรนั่นเอง แม้จะมีตัวเลขเงินสูงเกินความเป็นจริง แต่รายได้ส่วนนี้จะไม่ใช่เงินการันตีเหมือนกับค่าเหนื่อยที่นักเตะจะได้รับ เพราะถ้าหากนักเตะไม่สามารถทำผลงานได้ตีตามที่คาดหวัง สโมสรก็จะไม่ต้องเสียเงินในเงื่อนไขที่ตกลงไว้
ปัจจุบันการจ่ายโบนัสถือว่าเป็นวิธีการทางธุรกิจที่ชาญฉลาดมากในโลกของฟุตบอลยุคปัจจุบัน เพราะทำให้นักเตะมีลุ้นรายได้และจำนวนเงินมหาศาลจากโบนัสในสัญญา
การย้ายทีมแบบ ฟรี แต่ ไม่ฟรี ถือเป็นวัฒนาการครั้งสำคัญในโลกของฟุตบอลยุคปัจจุบัน เนื่องจากการใช้เงินที่เกินตัวของหลายสโมสร การตัดรายจ่ายโดยหวังผลตอบแทนเพียงน้อยนิดจากโบนัสในสัญญา ก็ถือว่าเป็นรายได้ที่ดีพอสมควร หากต้องการที่จะประคองสโมสรของตัวเองให้อยู่รอด
อ่านข่าวฟุตบอล :: เรื่องน่าสนใจในวงการฟุตบอล
ติดตาม Facebook fans page :: Superkick365
