ประวัติ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน กองหน้าอนาคตไกลของทัพท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน
ประวัติ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน หากจะพูดถึงกองหน้าดาวรุ่งที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตอนนี้ หลายคนคงจะต้องรู้จักเขาคนนี้ กองหน้าหนุ่มหน้าใหม่ที่ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติ เคียงคู่กับ แฮรี่ เคน ของทีมชาติอังกฤษในเวลานี้ และในสโมสรเขาก็ยังพาทีมต้นสังกัดโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เขาคนนี้ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน กองหน้าของทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงิน วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักประวัติของกองหน้าดาวรุ่งอนาคตไกลรายนี้ แบบทุกซอกทุกมุมกัน เชิญไปรับชมได้เลยครับ
ชื่อเต็ม : Dominic Calvert-Lewin (โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน)
เกิดเมื่อ ; 16 มีนาคม 1997 (อายุ 23 ปี)
สัญชาติ : อังกฤษ
สังกัดสโมสร : เอฟเวอร์ตัน
เท้าที่ถนัด ; ขวา
ส่วนสูง : 1.87 ม.
ตำแหน่ง : กองหน้าตัวเป้า , กองหน้าตัวกลาง
ชีวิตในวัยเด็ก
โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน เกิดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 1997 ในแถบ เซาท์ยอร์ค ไชน์ ในเมือง เซฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ โดยมารดาของเขาเป็นชาวอังกฤษแท้ ๆ ส่วนบิดาของเขามีเชื้อสายของแอฟริกัน-แคริบเบียน คัลเวิร์ต-เลวิน เกิดมาในครอบครัวแรงงานชนชั้นกลางทั่วไป โดยครอบครัวของเขาได้มองว่าการเล่นฟุตบอลอาชีพคืออีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยยกระดับครอบครัวของพวกเขาได้ ทำให้พ่อและแม่ของ คัลเวิร์ต-เลวิน วางแผนอนาคตของเขาไว้อย่างดีโดยที่พวกเขาสองคนได้มองเห็นถึงพรสวรรค์ทางด้านฟุตบอลของลูกชายและพร้อมจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ในเส้นทางสายนี้
ด้วยความทะเยอทะยานของ คัลเวิร์ต-เลวิน เกิดขึ้นมาตั้งแต่เจ้าตัวยังเป็นเด็ก ด้วยความที่ประเทศอังกฤษนิยมกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างมาก ทำให้เขาสนใจฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กและแสดงความต้องการที่จะโตขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างจริงจัง และทางครอบครัวของเขาก็เห็นดีด้วยและพร้อมจะสนับสนุนและผลักดัน ทำให้พ่อของ คัลเวิร์ต-เลวิน ตัดสินใจ ส่งเขาเข้าไปศึกษาและฝึกฟุตบอลในทีมระดับเยาวชนของของทีม เซฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เมื่อเขาอายุได้เพียง 8 ขวบ ซึ่งเจ้าหนู คัลเวิร์ต-เลวิน ก็ไม่ทำให้พ่อเขาผิดหวัง เขาได้แสดงความสามารถและพรสวรรค์ได้อย่างเต็มที่ โดยเจ้าตัวสามารถสร้างชื่อเสียงเริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่เข้ามาในสโมสรใหม่ ๆ ด้วยการยิง 4 ประตูในเวลาเพียง 10 นาที เท่านั้นในเกมระดับ U7 ของทีมซึ่งทำให้เขาเป็นนักฟุตบอลเด็กที่ฮ็อตมาก ๆ ณ เวลานั้น
การเล่นฟุตบอลในระดับอาชีพ
ฤดูกาล 2013-14 คัลเวิร์ต-เลวิน ได้ทำการเซ็นสัญญาเข้าไปอยู่ในทีมชุดใหญ่ของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรก ในเริ่มแรกที่เขาได้เล่นในฟุตบอลอาชีพแบบเต็มตัว เขาเริ่มเล่นในตำแหน่งกองกลาง box-to-box ซึ่งแตกต่างอย่างมากถ้าเปรียบในตำแหน่งปัจจุบันที่เจ้าตัวกลายมาเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยเขาได้สงสนามให้กับทีมเป็นครั้งแรกในเกมที่ เชฟฟิลด์เปิดบ้านเอาชนะแอสตัน วิลล่าไปได้ 2-1 ในศึก FA Cup รอบสามเมื่อวันที่ 4 มกราคม ปี 2014 โดยเขาถูกส่งลงสนามในฐานะตัวสำรองและหลังจากนั้นเขาก็แทบจะไม่มีโอกาสได้ลงเล่นอย่างจริงจังเลย
ต่อมาในฤดูกาล 2014-2015 โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน ในวัย 17 ปี เขาได้ลงสนามในฐานะตัวจริงให้กับทีมไป ทั้งหมด 2 เกม จากทุกรายการ และในฤดูกาลถัดมา เขาก็เริ่มได้ลงสนามมากขึ้นโดยเจ้าตัวได้ลงสนามไป 9 เกม ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับนักเตะเยาวชนที่มักจะได้รับโอกาสน้อย แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความทะเยอทะยานของเขา คัลเวิร์ต-เลวิน เขามองหาโอกาสที่จะลงสนามให้กับทีมอื่น ซึ่งสุดท้ายเขาก็ได้ตัดสินใจตอบรับการยืมตัวไปเล่นให้กับทีมที่มีมาตรต่ำกว่าอย่าง Staybridge Celtic และ Northampton Town ซึ่งเป็นทีมที่มอบโอกาสให้กับเด็กหนุ่มได้ลงสนามมากขึ้นอย่างที่เขาหวังไว้
โดมินิค ลงเล่นให้กับ Staybridge Celtic ไปทั้งหมด 5 เกม และยิงได้ 6 ประตู ก่อนที่เขาจะย้ายไปเล่นให้กับ Northampton Town ถึง 26 เกม และยิงได้ 8 ประตู ซึ่งนั้นถือเป็นสถิติที่ดีมาก ๆ ในตำแหน่งกองกลาง สุดท้ายด้วยความสามารถและพรสวรรค์ของเขาก็ได้ไปเตะตาแมวมองของ Everton หนึ่งในทีมระดับสูงสุดของประเทศอังกฤษจนได้ และหลังจากที่พวกเขาตามดูเด็กหนุ่มคนนี้ได้ไม่นานเขาก็ตัดสินใจยื่นข้อเสนอ 1.5 ล้านปอนด์ให้กับทีมต้นสังกัดของนักเตะเพื่อขอซื้อตัว คัลเวิร์ต-เลวิน มาร่วมทีมเยาวชน
หลังจากที่เขสย้ายมาอยู่กับทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงิน โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน ก็ได้รับความช่วยเหลือบวกกับการปรับตัวและการเล่นฟุตบอลโดยตรงจากกองหน้ารุ่นพี่อย่าง เวยน์ รูนี่ย์ รุ่นพี่ในทีม ทำให้เขาค่อย ๆ เริ่มปรับตัวขึ้นมาเล่นในตำแหน่งกองหน้า ถึงแม้เจ้าตัวจะโดดเด่นอย่างมากในการเล่นกองหน้าแบบเข้าฮอส แต่ในพรีเมียร์ลีก ณ เวลานั้น จะนิยมกองหน้าสไตล์ที่มีความสามารถเฉพาะตัวมากกว่า ทำให้ชื่อเสียงของเด็กหนุ่ม อย่าง คัลเวิร์ต-เลวิน ไม่ได้กลายเป็นที่สนใจบวกกับเขายังเป็นเพียงเด็กดาวรุ่งที่ยังไม่ได้รับความไว้วางใจมากนักแต่เวลาก็ช่วยพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีความสามารถแค่ไหนเขารอแค่เพียงโอกาสเท่านั้น
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตการค้าแข้งของเขาก็มาถึง เมื่อทีม Everton ต้องเสียนักเตะคนสำคัญออกไปทุกปีโดยเฉพาะกองหน้าตัวเป้าอย่าง Romelu Lukaku ในฤดูกาล 2017-2018 แต่นั่นกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนให้กับ คัลเวิร์ต-เลวิน นั้นได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องใน 3 ฤดูกาลถัดมาเขาได้ลงเล่นไปมากกว่า 35 นัด ในทุกรายการซึ่งนั่นเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าตัวได้อย่างดี ก่อนมาในฤดูกาล 2020-2021 นั้น คือฤดูกาลที่ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน ได้แจ้งความเต็มตัวบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฐานะกองหน้าตัวเป้าที่สุดจะอันตรายอย่างแท้จริง เขาเป็นกองหน้าสไตล์ ที่ใช้โอกาสไม่เปลืองและมีประสิทธิภาพอย่างมาก ซึ่งสร้างปัญหาให้กับคู่แข่งได้เป็นอย่างดีเพราะการประกบคู่แข่งที่ไม่มีบอลนั้นยากกว่าเวลาที่มีบอลเสียอีก ปัจจุบันเขาเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมต้นสังกัดกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้ง และขึ้นมารั้งอันดับ 5 ของตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ณ เวลานี้ โดยเขายิงไปแล้วทั้งหมด 13 ประตู จากการลงเล่น 23 นัด นำเป็นดาวซัลโวของทีมอยู่ในตอนนี้
ในระดับทีมชาติ
โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน ได้โอกาสลงเล่นให้กับทีมชาติ ชุด U20 ไปแข่งในรายการ FIFA U-20 ชิงแชมป์โลก ซึ่งเจ้าตัวเป็นคนทำประตูชัยในรอบชิงชนะเลิศช่วยให้ทีมชาติอังกฤษเอาชนะเวเนซุเอลาและผงาดคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จและนั่นคือการคว้ารางวัลระดับโลกครั้งแรกในชีวิตของเขาอีกด้วย ปัจจุบัน คัลเวิร์ต-เลวิน ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกองหน้าของทีมชาติชุดใหญ่ เคียงข้าง แฮรี่ เคน อย่างเต็มตัว โดยเขายิงไปแล้ว 2 ประตู จากลงเล่น 5 นัด ให้กับทีมชาติชุดใหญ่ และเราเชื่อว่าในอนาคตเขาจะกลายมาเป็นกองหน้าตัวหลักของทัพสิงโตคำรามอย่างแน่นอน
แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นกองหน้าที่มีชื่อเสียงก้องโลกแต่ คัลเวิร์ต-เลวิน ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ว่าทีมใดที่ประมาทสโมสรต้นสังกัดของเขาจะเป็นอย่างไร ยิ่งเขาได้ลงเล่นกับนักเตะระดับโลกมากมายในทีม ไม่ว่าจะเป็น Allan . James Rodriguez , Richalison บวกกับโค้ชประสบการณ์สูงอย่าง Carlo Ancelotti องค์ประกอบเหล่านี้ล้วนจะช่วยให้กองหน้าคนนี้มีความอันตรายขึ้นไปอีกหลายเท่า เราต้องมาติดตามดูกันว่า เขาจะพาทีมทำผลงานได้ดีแค่ไหนฤดูกาลนี้ เรามาติดตามและให้กำลังใจ กองหน้าอนาคตไกลที่มีนามว่า โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน รายนี้กันต่อไปว่าเขาจะทำได้ดีแค่ไหนและจะพาทีมทำผลงานไปลุยถ้วยยุโรปได้หรือไม่ในอนาคต
อ่านข่าวฟุตบอล :: ประวัตินักบอล
ติดตาม Facebook fans page :: Superkick365
