เปิดตำนาน 5 จตุรเทพของปีศาจแดงจากตัวตลกสู่ปลายทางดั่งฮีโร่
เปิดตำนาน 5 จตุรเทพ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักเรื่องราวของ นักเตะ 5 คนของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แฟน ๆ ตั้งฉายาให้พวกเขาเป็นดั่ง 5 จตุรเทพ ในยุค 2000 ของทีม นั่นคือ เวส บราวน์ , โอเช , ซิลแวสตร์ , คีแรน ริชาร์ดสัน และ เฟล็ตเชอร์ นักเตะเหล่านี้ต่างพาทีมคว้าแชมป์มาอย่างมากมาย แต่ทำไมกลับถูกแฟน ๆ ต่อว่าอยู่เสมอ วันนี้เราจะพาแฟนบอลทุกท่านไปทราบเหตุผลของเรื่องนี้กัน ไปชมกันได้เลย
จุดกำเนิดของฉายา
แน่นอนว่าพวกเขาทั้ง 5 ได้รับฉายานี้มาไม่ใช่เพราะความเก่งกาจอย่างแน่นอน แต่มันมาจากความฮา หรือ เฟอะฟะ ฉายา 5 จตุรเทพ กำเนิดในช่วงปี 2003 เป็นต้นมา ซึ่งไปช่วงเวลานั้นทีมปีศาจแดงกำลังอยู่ในช่วงที่เปลี่ยนถ่ายนักเตะหลายตำแหน่ง จึงทำให้พวกเขาไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้เลยใน 3 ฤดูกาล แน่นอนด้วยชื่อเสียงของทีมและความยิ่งใหญ่ในอดีตที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย มันทำให้ยากที่แฟนบอลจะยอมรับได้ถึงการขาดแชมป์มานานขนาดนี้ มันจึงทำให้ แฟนบอลผีแดงทั่วโลกเริ่มมองหานักเตะที่เป็นจุดอ่อนของทีม และสุดท้ายหวยก็มาออกกับพวกเขาทั้ง 5 คน แม้ต่างคนจะต่างตำแหน่งและมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน แต่พวกเขามีความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ ‘’การพลาดแบบง่าย ๆ จนทำให้เสียประตู’’ หรือจะเป็นการยิงประตูที่พลาดแบบจ่อ ๆ หน้าประตู จึงทำให้พวกเขากลายเป็นเป้าหมายโจมตีของแฟนบอลปีศาจแดง และนี้คือที่มาของ 5 จตุรเทพ ที่กำเนิดขึ้นมาในฐานะแพะรับบาปของทีมอย่างแท้จริง
ความผิดพลาดของเหล่าจตุรเทพ
ความรู้สึกของแฟนบอลทั่วโลก ณ เวลานั้น คงรู้สึกไม่ต่างกัน คือ’’พวกเขาชั้นยังไม่ถึง’’ สำหรับทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเกาะอังกฤษอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เวส บราวน์ เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟก็ออกลูกเฟอะฟะ , ลนลาน อยู่บ่อยครั้ง , ส่วน ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ เล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนกลางแต่ก็เล่นไม่ได้เรื่องซักทาง , จอหน์ โอเช และ มิคาเอล ซิลแวสตร์ ก็เข้าบอลโฉ่งฉ่าง ช้า เกินไปสำหรับการเล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาลฟ์
ความผิดพลาดของพวกเขาเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนกลายเป็นภาพจำของแฟนบอล และยิ่งหนักเข้าไปอีกถึงขั้นเหล่าแฟนบอลกดดันให้สโมสรขายนักเตะทั้ง 5 ออกไปจากทีมเสียที เนื่องจากไม่มีวี่แววการพัฒนาของพวกเขาเลยแม้แต่นิด ไม่ใช่แค่แฟนบอลเท่านั้นที่ออกมาวิจารณ์เรื่องนี้ ทั้งอดีตนักเตะ , นักข่าว ก็ต่างออกมาวิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง แม้ความผิดพลาดบ่อยครั้งของเหล่า 5 จตุรเทพ จะเป็นความจริงจนทำให้ภาพจำของพวกเขา ดูเป็นนักเตะที่ค่อนไปข้างน่าผิดหวัง และกลายเป็นตักตลก แต่อย่างไรก็ตามในมุมของพวกเขานั้น คงรู้สึกแย่ไม่น้อยที่ถูกตัดสินจากแฟนบอลว่าเป็นจุดอ่อนของทีม
ยูไนเต็ด พวกเขามีค่านิยมประจำสโมสร นั่นคือการรับผิดชอบตัวเอง พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง และมุ่งมั่นเพื่อสืบสานความยิ่งใหญ่ของสโมสรแห่งนี้สร้างจิตวิญญาณของความเป็นปีศาจแดงสู่รุ่นต่อรุ่น และแน่นอนว่ามันถูกปลูกฝังลงในทัศนคติของเหล่านักเตะทุกคน รวมถึง 4 จาก 5 คน ในแก็งค์จตุรเทพ ก็เป็นหนึ่งในนักเตะเยาวชนที่เติบโตมาจากระบบเยาวชนของปีศาจแดง มากกว่า 10 ปี
ริชาร์ดสัน เคยเล่าไว้ว่าวันที่เขาได้เซ็นสัญญาอาชีพกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่อและแม่ของเขาดีใจจนหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจเลยทีเดียว และเขายังเคยบอกไว้ว่าไอดอลของเขาคือ เหล่านักเตะรุ่นพี่อย่าง เวส บราวน์ , จอหน์ โอเช และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ที่กำลังตกเป็นเป้าหมายวิจารณ์เวลาทีมได้ผลการแข่งขันที่ไม่ดีนั่นเอง
ในส่วน ซิลแวสตร์ ซึ่งไม่ใช่นักเตะท้องถิ่นก็ออกมายอมรับว่า ช่วงเวลาที่แสนลำบากของเขาไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเบื่อหรืออยากจะย้ายออกจากทีมเลยแม้แต่น้อย และช่วงเวลาที่เขาเสียใจที่สุดในอาชีพนักฟุตบอลคือการที่เขาต้องย้ายออกจากทีมในปี 2008 ซึ่งทำให้แน่นอนแล้วว่าเสียงวิจารณ์ของเหล่าแฟนบอลไม่ได้ทำให้นักเตะเหล่านี้รู้สึกยอมแพ้เลย มันกลับทำให้พวกเขาสู้ยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ ซึ่งทัศนคติแบบนี้ทำให้นักเตะสายฮา อยู่กับทีมมาได้อย่างยาวนานเหลือเกิน
ซิลแวสตร์ 9 ปี , เวส บราวน์ 15 ปี , จอหน์ โอเช 10 ปี , เฟล็ทเชอร์ 12 ปี และ ริชาร์ดสัน ที่น้อยสุดคือ 5 ปี อะไรที่ทำให้พวกเขาอยู่ได้ยาวนานขนาดนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ให้คำตอบไว้คือ
หัวใจที่แกร่งสำคัญไม่ต่างจากฝีเท้า
หนึ่งในเหตุผลของเหล่า 5 จตุรเทพโดนแฟนบอลด่า ก็เพราะว่าพวกเขามักจะได้ลงเล่นในเกมสำคัญ ๆ เสมอ จึงทำให้ผลการแข่งขันออกมาไม่ค่อยดี อย่างไรก็ตามในส่วนของกุนซือใหญ่อย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กุสัน ได้มองคนละแบบ เขามองว่านักเตะเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการเล่นเกมสำคัญ ๆ เพราะพวกเขามีอารมณ์ร่วมกับทีมสูงมาก และที่สำคัญนักเตะเหล่านี้พร้อมจะสู้เพื่อทีมแบบไม่กลัวใครอยู่เสมอ
‘’ ผมชอบ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ มาก เพราะนักเตะคนนี้มีความเป็นสุดยอดมืออาชีพ ผมชอบให้เขาลงในเกมใหญ่ ๆ เขานักเตะจำพวกยิ่งเจอเกมใหญ่ ๆ ยิ่งทำให้เขาเล่นดีและไม่กลัวใคร ในเกมที่เสมอ บาร์เซโลน่า ที่โรม ผมคิดถึงเขามากที่สุด หากทีมมีเขาอยู่ เขาจะช่วยเราได้อย่างแน่นอน ‘’ เฟอร์กุสัน พูดถึง เฟล็ทเชอร์ ที่หลายคนมองว่าเป็นลูกนักของเขานั่นเอง
ในส่วนของเวส บราวน์ ก็เป็นอีกคนที่เฟอร์กี้ ชื่นชอบอย่างมาก เพราะเวลาที่เขาได้รับการสั่งแผน บราวน์ ก็จะรับผิดชอบคำสั่งของเขาได้เป็นอย่างดี แม้ไม่วูบวาบมากนัก แต่ เฟอร์กี้ ก็มักจะชอบนักเตะแบบนี้มาตลอด นักเตะที่สั่งอย่างไรได้อย่างนั้น
‘’ ถ้าวันไหน เวส บราวน์ พีก ๆ ผมกล้าพูดเลยว่านี่กองหลังอังกฤษที่ดีที่สุดคนหนึ่ง ผมตกใจมากตอนผมเห็นเห็นอายุของเขา 30 ปีแล้ว ซึ่งในความคิดของผมมักจะผิดว่าเขาอายุ 22 หรือ 23 ‘’ เฟอร์กี้กล่าวถึง เวส บราวน์
ในขณะคนอื่น ๆ ก็ไม่ต่างกัน นักเตะพวกนี้มีคุณสมบัติที่แฟนบอลใม่เห็นแต่คนใกล้ตัวเห็น นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาจึงอยู่กับทีมได้อย่างยาวนาน และคว้าแชมป์กับทีมมากมาย
จุดจบที่สวยงาม
ซึ่งแน่นอนเราไม่ควรจะติดสินใครหากยังไม่รู้จักเขาดีพอ คำนี้จริงเสียยิ่งกว่าจริงสำหรับกรณีของเหล่า 5 จตุรเทพ พวกเขาเริ่มต้นจากการเป็นตัวตลกของแฟนบอล แต่พวกเขาก็เปลี่ยนมันได้ในวันที่พวกเขาต้องโบกมืออำลาสโมสร
ต้องยอมรับเลยว่าหลังจากเข้าสู่ปี 2006 เป็นต้นมา ทีมปีศาจแดง เริ่มสร้างทีมได้อย่างเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น การมาของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ทำให้ปัญหาผู้รักษาประตูหมดไป , เฟอร์ดินานด์ ก็ได้คู่หูคนใหม่เป็น วิดิช , ริมเส้นก็ได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่พัฒนาจากปีกจอมสับมาสู่ร่างเทพ ขณะที่กองหน้าก็มี เวย์น รูนี่ย์ เป็นตัวนำ นั่นคือยุคสมัยที่ ปีศาจแดง เริ่มเอาคืนจาก 3 ปีที่ว่างเปล่า
เมื่อความสำเร็จกลับมา ภาพลักษณ์ตัวตลกของพวกเขาก็เริ่มจางหายไป และทำให้หลายคนมองกลุ่มนักเตะจตุรเทพโดยเฉพาะ เวส บราวน์ โอเช และ เฟล็ทเชอร์ ใหม่ และพบว่านักเตะกลุ่มนี้คือตัวสำคัญไม่แพ้คนอื่น ๆ นอกจากในแง่ความรู้สึกแล้ว ก็ยังมีผลงานที่จับต้องได้อาทิเช่น เวส บราวน์ กลายมาเป็นแบ็คขวาตัวจริงที่ได้ลงสนามมากที่สุดในฤดูกาล 2007 – 2008 และได้แชมป์ลีกกับแชมป์ยุโรปพร้อม ๆกัน ส่วนในรายของ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ก็อย่างที่เฟอร์กี้เคยบอกไว้ เขาคือกองกลางที่ทีมขาดไม่ได้ เขาทำงานหนักในสนามเพื่อช่วยส่งให้นักเตะคนอื่น ๆ ได้ฉายแสง ในยุคทองและช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จมากมาย
และในที่สุด ความยิ่งใหญ่ของทีมปีศาจแดง ที่ทวงกลับมาได้ ก็ลบล้างภาพความเฟอะฟะของเหล่าจตุรเทพได้อย่างหมดจด จากนักเตะที่แฟนบอลไม่ชอบและไม่ต้องการเห็นพวกเขาลงสนาม กลับกลายมาเป็นเหล่าแฟนบอลรู้สึกผูกพันเพราะอยู่กับทีมมานาน และคอยอยู่เคียงข้างต่อสู้ในวันที่ทีมยากลำบากจนถึงช่วงการกอบโกยความสำเร็จพร้อมกับสโมสร
สุดท้ายแล้วความพยายามของพวกเขาเอาชนะใจแฟนบอลจนได้ในท้ายที่สุด และเปลี่ยนตอนจบให้เรื่องนี้เป็นฉากจบที่แฮปปี้เอนดิ้งในวันที่พวกเขาโบกมือลาจากทีม จากฝีเท้าที่ใครต่างก็มองว่าไม่ควรอยู่กับทีมระดับนี้ กลับมาสู่การผลามผสานที่ลงตัวของทีมแม้จะไม่มีสตาร์เด่นมากมาย แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องการมดงานที่พร้อมจะทุ่มเทและต่อสู้ไปกับทีม ซึ่งนำมาสู่ความสำเร็จอันสุดยอดและยิ่งใหญ่ของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อ่านข่าวฟุตบอล :: เรื่องน่าสนใจในวงการฟุตบอล
ติดตาม Facebook fanpage :: Superkick365
